ไม้ เป็นหนึ่งในวัสดุ ที่เรียกได้ว่าบ้านเกือบทุกหลังจะต้องมีเป็นส่วนประกอบในการทำบ้าน นั่นเพราะว่างานไม้จะช่วยให้บ้านดูมีความเป็นธรรมชาติ อบอุ่น แถมยังมีความทนทาน ดีไซน์ได้หลากหลาย และมีลวดลายเนื้อไม้ที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป
แต่งานไม้ในบ้าน นอกจากการออกแบบให้สวยงามแล้ว ยังต้องมีการดูแลรักษาที่ดี ด้วยการใช้สีทาไม้ ที่จะช่วยปกป้องพื้นผิวและเนื้อไม้จากเชื้อรา หรือปัญหาต่างๆ
บทความนี้ จะพาคุณมาทำความรู้จักกับทาไม้กันให้มากยิ่งขึ้น พร้อมวิธีการเลือกใช้ตามประเภทให้เหมาะสม เพื่อช่วยให้งานไม้ในบ้านสวยงามตอบโจทย์และยังช่วยเสริมความทนทานอีกด้วย
สีทาไม้คืออะไร? ทำบ้านไม้ต้องห้ามพลาด

บ้านหลายๆ หลังจะมีการเลือกใช้งานไม้มาเป็นส่วนประกอบ ยิ่งเจ้าของบ้านบางหลังเลือกใช้ไม้ที่มีราคาแพง ก็ยิ่งต้องให้การดูแลรักษาความสวยงามเอาไว้ให้ดี
สีทาไม้ จึงเป็นสีที่ผลิตขึ้นมาเพื่อการดูแลรักษาและปกป้องพื้นผิวของงานไม้จริงโดยเฉพาะ รวมถึงการเคลือบพื้นผิวงานไม้ให้มีความสวยโดดเด่น มองเห็นลวดลายของไม้ได้อย่างชัดเจน และยังให้สีสันความเป็นธรรมชาติของงานไม้ที่สดใสเหมือนใหม่อยู่ตลอด
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่ได้ใช้สีทาไม้
ไม้จะเกิดความผุพัง เสียหายได้ เนื่องจากงานไม้เป็นวัสดุธรรมชาติที่เจอกับปัญหาต่างๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น
- ความชื้นหรือน้ำ ที่ทำให้เนื้อไม้เกิดการบวม เกิดเชื้อราขึ้น
- ความร้อนจากแสงแดด ทำให้เกิดการเปราะแตกของเนื้อไม้ได้ง่าย
- ปัญหาเรื่องปลวกหรือแมลง ที่จะเข้าไปทำให้โครงสร้างเนื้อไม้เสียหายได้ง่าย
การดูแลรักษาด้วยสีทาไม้ก่อน จึงจะช่วยป้องกันและทำให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นยาก ช่วยยืดอายุให้งานไม้ รวมถึงทำให้งานไม้มีความสวยงาม สดใสยาวนาน
งานไม้แบบไหนบ้าง? ที่ต้องใช้สีทาไม้
งานไม้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ถ้าหากว่าเป็นไม้จริง จะต้องใช้งานสีทาไม้ทั้งหมด เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น ป้องกันปัญหาต่างๆ และทำให้พื้นผิวไม้สวยสดใส โดยงานไม้ในบ้านที่ต้องทาสีจะมีทั้ง
- ประตู
- วงกบประตูหน้าต่าง
- โครงสร้างหลักของตัวบ้าน เช่น เสา คาน ผนัง พื้น
- เฟอร์นิเจอร์ในบ้าน เช่น โต๊ะ ตู้ เตียงนอน เก้าอี้
- งานไม้ที่อยู่นอกบ้านต่างๆ เช่น ศาลาไม้ ระแนงไม้ พื้นไม้ ผนังไม้
การแบ่งประเภทของสีทาไม้ และการเลือกใช้ที่ตอบโจทย์
ในการเลือกใช้สีทาไม้สำหรับที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายใน คุณจะพบว่าผลิตภัณฑ์สีสำหรับทาไม้นั้นมีอยู่หลากหลายรูปแบบ
แต่เมื่อเจาะรายละเอียดไปในสีชนิดต่างๆ แล้วจะพบว่าสีทาไม้แต่ละชนิด จะมีการออกแบบให้ตอบโจทย์งานไม้ที่ต่างกันออกไป เพื่อช่วยให้การเคลือบสีของงานไม้แต่ละรูปแบบ ได้รับการปกป้องอย่างเหมาะสมมากท่ีสุด
ประเภทของสีทาไม้ที่ต้องทำความรู้จัก แบ่งออกเป็น
1. สีย้อมไม้
สีย้อมไม้ หรือสีทาไม้แบบโปร่งแสง หากทำความเข้าใจตามชื่อของสี นั่นก็คือ สีทาไม้ที่ใช้ทาลงบนพื้นผิวไม้ที่ไม่ได้ต้องการปกปิดลายธรรมชาติของไม้ เน้นความโปร่งของฟิล์มสีเพื่อโชว์ลายไม้เดิม เพราะไม้บางชนิดก็จะมีลายไม้ที่สวยงามอยู่แล้ว เพียงแค่ต้องการการปกป้องพื้นผิวเท่านั้น
คุณสมบัติเด่นของสีย้อมไม้
- ฟิล์มสีมีความโปร่งแสง แข็งแรง ทนทาน ทำให้ลายไม้ดูสวยงามโดดเด่นสดใส
- ฟิล์มสีมีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากไม้เป็นวัสดุที่สามารถยืดหรือหดตัวได้ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ หากฟิล์มสีไม่มีความยดหยุ่นที่ดี ก็จะทำให้สีเกิดการแตกร้าว หลุดล่อนได้ง่าย
- แทรกลึมเข้าสู่พื้นผิวไม้ได้ดี ช่วยให้การปกป้องไม้มีประสิทธิภาพ และยังให้ยึดเกาะพื้นผิวที่ดี
- ป้องกันน้ำซึมเข้าไป เพราะน้ำและความชื้นจะสร้างปัญหาให้ไม้เกิดการพองตัว หรือเสียหายได้
- ป้องกันปัญหาอื่นๆ ที่จะทำให้งานไม้ในบ้านเสื่อมสภาพได้รวดเร็ว เช่น ปลวก มอด แมลง เชื้อรา
สีทาไม้แบบโชว์ลายไม้ เหมาะกับการใช้งานแบบไหน
สำหรับการเลือกใช้สีทาไม้แบบโชว์ลายไม้ จะเหมาะกับงานไม้ในบ้านที่ต้องการเพิ่มความแข็งแรงทนทาน แต่ยังคงต้องการให้เห็นความเป็นธรรมชาติของเนื้อไม้ได้อย่างสวยงามอยู่
โดยสามารถใช้งานกับไม้ได้อย่างหลากหลายทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็น บานประตู หน้าต่าง วงกบ เชิงชาย ฝ้าระแนง บ้านไม้ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้ต่างๆ
เทคนิคการเลือกใช้งานสีย้อมไม้
เนื่องจากสีย้อมไม้ จะมีการผลิตออกมาอยู่ 2 รูปแบบ เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานที่เหมาะสม โดยจะแบ่งเป็น
- สีย้อมไม้สูตรน้ำมัน เป็นสูตรที่ให้การปกป้องพื้นไม้ได้อย่างทนทาน โดยกาวที่อยู่ในเนื้อสีจะสามารถซึมลึกเข้าไปปกป้องพื้นผิวไม้ได้ดี
- สีย้อมไม้สูตรน้ำ เป็นสูตรที่ผลิตมาเพื่อให้การใช้งานสะดวกขึ้น สีแห้งไว จบงานเร็ว มีกลิ่นอ่อน ไม่รบกวนการอยู่อาศัยหลังทาสีเสร็จ แต่ความทนทานจะน้อยกว่าสูตรน้ำมัน
2. สีย้อมพื้นไม้
สีย้อมพื้นไม้ จะเป็นสีที่มีคุณสมบัติคล้ายกับสีย้อมไม้ในข้อแรก แต่สีชนิดนี้จะออกแบบมาเพื่อใช้งานกับงานพื้นไม้โดยเฉพาะ เนื่องจากพื้นไม้จะต้องเจอกับแรงกดทับที่มากกว่า มีการเดิน มีการทำความสะอาด ขัดเช็ดถูบ่อยๆ ฟิล์มสีจึงมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
คุณสมบัติเด่นของสีย้อมพื้นไม้
- ฟิล์มสีมีความทนทาน ทนต่อการบิดตัวของไม้ การกดทับจากการเดิน หรือรับน้ำหนักต่างๆ ทำให้สีไม่เกิดการแตกลอกได้ง่าย
สีย้อมพื้นไม้ เหมาะกับการใช้งานแบบไหน
สำหรับการเลือกใช้งานสีย้อมพื้นไม้ จะเหมาะกับพื้นไม้จริงทั้งภายนอกและภายในบ้าน ฟิล์มสีมีความทนทานสูง ทั้งจากแรงกดทับ แสงแดด รวมถึงความชื้นด้วย
3. แลคเกอร์
สำหรับแลคเกอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ทำสีงานไม้ที่ช่างหรือนักออกแบบบ้านต้องทำความรู้จักเอาไว้ เพราะเป็นสีที่ใช้สำหรับการพ่นเฟอร์นิเจอร์ไม้ภายในบ้านโดยเฉพาะ
คุณสมบัติเด่นของแลคเกอร์
- มีฟิล์มสีที่ใส บาง ให้พื้นผิวงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เงาสวย
แลคเกอร์ เหมาะกับการใช้งานแบบไหน
การใช้งานแลคเกอร์จะเหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ในบ้าน ที่ไม่ได้โดนแดดหรือโดนฝนโดยตรง จะช่วยให้งานไม้ดูเงาสวย และมีฟิล์มสีบางทำให้โชว์ลายไม้ที่ชัดเจน โดยการใช้งานจะต้องใช้เครื่องพ่นสีเท่านั้น
สีทาไม้ ตัวช่วยสำคัญให้งานไม้ในบ้านทนทาน สวยงามได้ยาวนาน
ในการทำบ้านที่มีไม้เป็นส่วนประกอบ หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ไม้ทั้งในและนอกบ้าน ต่างต้องการการดูแลที่ถูกต้อง เพื่อรักษาความสวยงามของไม้และยืดอายุการใช้งานให้นานที่สุด
การใช้งานสีทาไม้ถือว่าตอบโจทย์ทั้งในเรื่องความสวยงาม พร้อมป้องกันครบปัญหาที่จะมาทำลายเนื้อไม้ช่วยให้สีงานไม้ในบ้าน สวยทน สวยนาน