ห้องรับแขก ถือว่าเป็นหนึ่งในห้องที่คนในบ้านใช้เวลาร่วมกันนานที่สุด การออกแบบจึงต้องคำนึงถึงการใช้พื้นที่รวมกัน มีประโยชน์ใช้สอย และต้องคำนึงถึงความสวยงามที่สร้างบรรกาศในการใช้เวลาร่วมกันได้อย่างมีความสุข
มาอัปเดตเทรนด์ล่าสุดกับการตกแต่งภายในของห้องรับแขก ในปี 2024 นี้ มีสไตล์ห้องรับแขกแบบไหนที่สวย และน่านำมาเป็นไอเดียในการออกแบบต่อได้
15 แบบห้องรับแขกสวยๆ ประจำปี 2024
1. ห้องรับแขกที่เต็มไปด้วยดีเทล (Detail)
เริ่มต้นที่แบบแรก ที่ดูครั้งแรกก็รู้เลยว่าห้องรับแขกสไตล์นี้มีงานดีเทล หรือรายละเอียดต่างๆ ซ่อนอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานผนังที่ใส่ขอบบัว งานไม้บนฝ้าเพดาน และตัดด้วยสีดำบริเวณคาน
นอกจากนี้ยังมีการเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่างๆ ท่ีมีงานดีไซน์ซับซ้อน ดูได้ไม่เบื่อ มาจัดวางอย่างสวยงาม ไปในทิศทางเดียวกันได้อย่างลงตัว
ไอเดียสีสันสำหรับสไตล์นี้
เลือกใช้สีขาวเป็นสีหลักในการออกแบบห้อง และตัดเส้นบางจุดด้วยสีดำ จะช่วยสร้างมิติให้ดูสวยงาม รวมถึงมีการใส่กระจกรอบด้านเพื่อรับแสงสว่างจากธรรมชาติ ให้บรรยากาศในดูอบอุ่น สบายตา
2. ห้องรับแขกที่ดึงตัวตนและความชอบออกมาโชว์ได้เต็มที่
ห้องรับแขกเป็นห้องที่เจ้าของบ้านจะได้ใช้เวลาอยู่บ่อยมากที่สุด เทรนด์การออกแบบในปีนี้จึงมีการใส่ความชอบและมีพื้นที่โชว์สิ่งของที่แสดงตัวตนของเจ้าของบ้านออกมา ให้ได้มีเวลาชื่นชมได้เต็มที่ และยังเป็นพื้นที่ของการโชว์ของสะสมให้แขกที่มาเยือนได้ชมอีกด้วย
ไอเดียสีสันสำหรับสไตล์นี้
สีสันสามารถเลือกใช้เป็นสีขาวเป็นหลัก และตัดด้วยสีโทนเข้มเพื่อสร้างมิติให้กับตัวห้อง โดยที่ไม่แย่งความโดดเด่นของสิ่งของที่นำมาวาง นอกจากนี้ยังต้องมีชั้นวางหรือตู้กระจกเพื่อใช้วางของสะสมด้วย
3. ห้องรับแขกโมเดิร์นแปลกตา
แม้ว่าจะเป็นห้องสีขาวเรียบๆ แต่เมื่อมองดูแล้ว กลับดูมีเอกลักษณ์และดึงดูดสายตาเป็นอย่างมาก เพราะห้องรับแขกสไตล์นี้ จะเน้นไปที่การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่มีดีไซน์แปลกตาออกไป ทั้งโซฟาตัวใหญ่ทรงโค้งที่มีขนฟู โต๊ะวางของดีไซน์เป็นรูปทรงฟรีฟอร์ม (Freeform) ทำให้ห้องนี้มีความโดดเด่นได้ไม่เหมือนใคร
ไอเดียสีสันสำหรับสไตล์นี้
เลือกใช้สีขาวหรือสีเทาโทนสว่างให้กับผนังห้องและฝ้าเพดาน เพื่อเน้นให้ของตกแต่งและเฟอร์นเจอร์ดูโดดเด่น
4. ห้องรับแขกสไตล์สตรีทอาร์ต (Street Art)
ห้องรับแขกไม่จำเป็นต้องเป็นสีเรียบๆ เท่านั้น แต่ยังสามารถใส่งานศิลปะชิ้นใหญ่เข้าไปได้ โดยห้องรับแขกสไตล์สตรีทอาร์ต จะเป็นการใช้ผนังห้องเป็นผืนผ้าใบในการวาดภาพด้วยมือลงไป ซึ่งนอกจากจะได้ความสนุก แปลกตาแล้ว ยังมีความโดดเด่นได้ไม่เหมือนใครด้วย
ไอเดียสีสันสำหรับสไตล์นี้
สำหรับสไตล์สตรีทอาร์ต สามารถเลือกใช้สีสันได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของบ้าน และการตกแต่งในส่วนอื่นๆ สามารถดึงสีสันจากภาพวาดบนผนังมาเป็นแบบ เพื่อทำให้ห้องรับแขกนี้ดูมีความกลมกล่อมสายตา
5. ห้องรับแขกสไตล์สมาร์ทเทค (Smart Tech)
จากที่เราได้เห็นกันว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ มีอุปกรณ์สมาร์ทโฮมหลากหลายรูปแบบที่ถูกพัฒนาให้มีความฉลาด แม่นยำ และช่วยให้การอยู่อาศัยในบ้านมีความสะดวกสบายมากขึ้น
ซึ่งในปี 2024 นี้ สไตล์การออกแบบห้องรับแขกเพื่อรองรับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมเหล่านี้ ก็จะกลายเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น
ไอเดียสีสันสำหรับสไตล์นี้
หากต้องการความล้ำสมัย สามารถเลือกใช้เป็นสีโทนเข้มอย่างสีเทาเข้มหรือสีดำเป็นสีหลัก ตัดกับลายไม้สีเข้มที่มีความันสมัย นอกจากนี้ก็ต้องอย่าลืมวางฟังก์ชันของพื้นที่ต่างๆ ในห้องนั่งเล่น ให้สามารถจัดเก็บอุปกรณ์สมาร์ทโฮมเหล่านี้เข้าไปได้อย่างลงตัว
6. ห้องรับแขกสไตล์อีโค (Eco) เป็นมิตรกับธรรมชาติ
เทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อม ถือว่ากำลังเป็นกระแสหลักของโลกนี้อยู่ ทำให้เกิดวัสดุที่มาจากการรีไซเคิล หรืออัพไซเคิล จากการนำสิ่งของที่หมดมูลค่าไปแล้วกลับมาเข้ากระบวนการใหม่ เพื่อให้เป็นเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งที่มีความสร้างสรรค์ และใช้งานได้
ซึ่งห้องรับแขกสไตล์อีโค ก็เป็นการนำเอาสิ่งของเหล่านั้นเข้ามาตกแต่งภายในห้อง เพื่อช่วยสนับสนุนในการลดโลกร้อนและใช้สิ่งของที่มีความยั่งยืนต่อโลกมากขึ้น
ไอเดียสีสันสำหรับสไตล์นี้
สามารถเลือกใช้สีขาวเป็นสีหลัก เพิ่มไอเดียของความอบอุ่น และเป็นธรรมชาติด้วยการเปลือยผนังหรือโครงสร้างบางจุด รวมถึงการเปิดช่องแสงธรรมชาติให้แสงส่องเข้ามา ให้บรรยากาศของห้องดูอบอุ่น
7. ห้องรับแขกสไตล์หรูที่ตกแต่งด้วยลายเส้น
ห้องรับแขกที่ตกแต่งด้วยลายเส้น ถือว่าเป็นสไตล์ที่อยู่เหนือกาลเวลา จะผ่านไปกี่ยุคสมัยก็ยังดูทันสมัยอยู่ โดยการออกแบบห้องรับแขกสไตล์นี้ จะเน้นไปที่การเล่นลายเส้นหลายรูปแบบ ทั้งขอบบัวที่ผนัง เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นโครงเส้นเล็กๆ พื้นที่เป็นเส้น รวมถึงของตกแต่งในห้อง
ไอเดียสีสันสำหรับสไตล์นี้
ห้องรับแขกสไตล์นี้ สามารถทำให้ดูหรูหราได้ด้วยสีโทนเข้ม โดยเลือกใช้สีผนังในโทนสีเทาเข้มๆ รวมถึงสีของเฟอร์นิเจอร์เองก็เป็นสีโทนดำ แต่ต้องมีช่องเปิดรับแสงขนาดใหญ่เพื่อให้ห้องดูไม่ทึบเกินไป และต้องมีแสงสว่างเพียงพอในตอนกลางคืนด้วย
8. ห้องรับแขกสไตล์หรูโมเดิร์น
สำหรับห้องรับแขกที่มีความหรูหรา มีมาอยู่แล้วทุกยุคสมัย แต่ในปัจจุบันมีการผสมผสานความทันสมัยเพิ่มเข้ามา จึงมีการลดทอนการออกแบบให้ดูเรียบง่ายขึ้น แต่ยังคงความหรูหราด้วยการเลือกรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ ที่มีดีไซน์หรูหรา ดูแพง
ไอเดียสีสันสำหรับสไตล์นี้
ห้องรับแขกสไตล์นี้สามารถเลือกใช้สีขาวเป็นสีหลัก และเลือกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์ที่ดูเรียบหรูสีทอง หรือมีความแวววาวในตัว จะช่วยเพิ่มมิติของความหรูหราให้มากขึ้น
9. ห้องรับแขกกลิ่นอายยุค 70
ยุค 70 ถือว่าเป็นช่วงที่แฟชั่นและการออกแบบต่างๆ มีสีสันที่ดูสนุกสนาน มีการใช้แพทเทิร์นสีสัน และยังเป็นช่วงที่สีสันของ Metallic ได้รับความนิยมอีกด้วย
จากความป๊อปในยุคนั้นเอง จึงเป็นแรงบันดาลใจให้การออกแบบห้องนั่งเล่นได้ดึงกลิ่นอายจากยุค 70 มาใช้ ให้ดูมีความวินเทจ แต่ก็ยังปรับให้ดูทันสมัยมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นผนังห้องที่เป็นแพทเทิร์นกระเบื้อง ผสมกับงานไม้สีเข้ม และมีสันจากเฟอร์นิเจอร์ที่มีความเป็น Metallic
ไอเดียสีสันสำหรับสไตล์นี้
สำหรับสีของห้องรับแขกสไตล์นี้ สามารถเลือกใช้เป็นสีครีมตัดกับสีน้ำตาลเข้ม จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูวินเทจขึ้นมา
10. ห้องรับแขกสไตล์มินิมอลหรูหรา
สำหรับความมินิมอลของห้องนั่งเล่น อาจจะไม่ใช่การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่น้อยชิ้นและเรียบง่ายเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่ยังสามารถเติมแต่งความหรูหราเข้าไปเพิ่ม เพื่อสร้างบรรยากาศของห้องให้ดูแพงมากยิ่งขึ้น
ด้วยส่วนผสมของงานหินอ่อน งานไม้ และผนังสีขาวที่มีการซ่อนเส้นไฟเข้าไป เพื่อเติมแสงให้ห้องดูสว่างยิ่งขึ้น จนดูเป็นความเรียบหรูที่มินิมอล ทันสมัย
ไอเดียสีสันสำหรับสไตล์นี้
สามารเลือกใช้ผนังและฝ้าเป็นสีขาว ส่วนผนังไม้ที่เลือกใช้ควรเป็นสีน้ำตาลอ่อนมีดีไซน์ที่เรียบ รวมถึงการเลือกใช้หินอ่อนมาทำเป็นชั้นวาง เพื่อเสริมความหรูให้กับห้องนี้ได้
11. ห้องรับแขกสไตล์เรโทร
เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งจากยุค 70-80 ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับยุคนี้ เพราะมีความป๊อป มีความฉูดฉาด และมีดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์
เมื่อนำมาตกแต่งในห้องรับแขกแล้ว จะสามารถกลิ่นอายของยุคนี้กลับมา เรียกได้ว่าเป็นเหมือนทามแมชชีนย้อนเวลากลับไปดูความเก๋ของงานศิลปะในยุคนั้น
ไอเดียสีสันสำหรับสไตล์นี้
เลือกใช้สีครีมออกขาวเป็นสีหลักของห้อง แล้วตัดด้วยสีน้ำตาลอ่อนๆ จะช่วยสร้างบรรยากาศของห้องให้ดูมีความย้อนยุค และยังทำให้สีสันของเฟอร์นิเจอร์ที่นำมาตกแต่งดูโดดเด่นได้มากขึ้น
12. ห้องรับแขกสไตล์เอิร์ธโทน
ห้องรับแขกสไตล์นี้ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นการเลือกใช้สีสันสไตล์เอิร์ธโทน ซึ่งเป็นสีโทนน้ำตาล มาผสมผสานกับวัสดุธรรมชาติต่างๆ ทำให้ห้องนั่งเล่นมีความรู้สึกที่ผ่อนคลาย สบายตา น่าพักผ่อน
ไอเดียสีสันสำหรับสไตล์นี้
เลือกใช้สีครีมเป็นสีหลัก และมีการผสมสีน้ำตาลจากงานไม้ต่างๆ เข้ามา จะช่วยสร้างบรรยากาศให้ห้องดูเป็นสีน้ำตาลดูอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ
13. ห้องรับแขกสีเบจสุดนุ่มนวล
ถ้าหากว่าโจทย์ของการออกแบบห้องนั่งเล่นให้เป็นสถานที่พักผ่อนที่ดีที่สุดในบ้าน การเลือกใช้สีเบจอ่อนๆ ถือว่าเป็นคำตอบที่ดีในการเลือกใช้ ซึ่งจะทำให้บรรยากาศโดยรวมของห้องดูมีความนุ่มนวล สบายตา น่าพักผ่อนเป็นอย่างมาก
ไอเดียสีสันสำหรับสไตล์นี้
สามารถเลือกใช้สีเบจอ่อนๆ กับผนัง หรือถ้าไม่อยากให้ห้องดูเรียบเกินไป ก็สามารถเพิ่มแท็กซ์เจอร์ให้กับผนัง เพื่อสร้างมิติให้ดูละมุนตา และสามารถเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ดูหนานุ่ม จะทำให้ห้องนี้กลายเป็นห้องที่ทุกคนในบ้านมารวมตัวกันบ่อยๆ ได้
14. ห้องรับแขกผสมผสานสุดสร้างสรรค์
การผสมผสานและจับคู่จากรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงของตกแต่งต่างๆ ที่มีดีไซน์หลากหลาย จะช่วยให้ห้องนั่งเล่นมีเอกลักษณ์ และสะท้อนตัวตนของเจ้าของบ้านได้ดี เช่น เลือกโคมไฟดีไซน์กลมแปลกตา ที่นั่งรูปทรงโค้งเป็นก้อนกลม โต๊ะหินที่โค้งมน
ไอเดียสีสันสำหรับสไตล์นี้
สำหรับสีผนังห้องสไตล์นี้ สามารถเลือกใช้เป็นสีโทนกลาง เช่น สีขาว สีครีม สีเบจ จะช่วยให้ของตกแต่งต่างๆ ในห้องดูโดดเด่น และดูกลมกลืนไปด้วยกัน
15. ห้องรับแขกสไตล์โมโนโครม (Monochrome)
สำหรับแบบห้องรับแขกแบบสุดท้าย จะเป็นการออกแบบที่เน้นการใช้สีแบบโมโนโครม หรือใช้สีเดียวกันทั้งห้อง แต่เลือกปรับความเข้มอ่อนจุดต่างๆ ให้ดูลงตัวกันพอดี จะช่วยสร้างบรรยากาศของห้องให้ดูกว้าง ดูสว่าง และยังทำให้รู้สึกถึงความหรูหราด้วย
ไอเดียสีสันสำหรับสไตล์นี้
เลือกใช้เป็นสีโทนเดียวกันทั้งห้อง เช่น สีชมพู สามารถเลือกใช้ผนังที่เป็นสีชมพูออกครีม และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ให้เป็นสีชมพูโทนต่างๆ โดยอาจจะตัดความหวานของสีด้วยสีน้ำตาลหรือสีครีมในบางจุด จะทำให้ดูกลมกล่อมพอดี
ห้องรับแขกสวย สร้างความสุขให้กับทุกคนในบ้าน
สำหรับห้องรับแขก ถือว่าเป็นหนึ่งในห้องที่สำคัญของบ้าน เพราะจะเป็นที่ที่ทุกคนในบ้านมาทำกิจกรรมร่วมกัน รวมถึงยังเป็นหน้าตาของบ้านที่ใช้สำหรับการต้อนรับแขกที่มาเยือน
นอกจากการออกแบบที่สวยงามแล้ว ฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ก็ต้องใช้โยชน์ได้จริง เข้าถึงได้ง่าย ที่จะช่วยสร้างความสุขให้กับทุกคนในบ้าน ในการใช้เวลาในห้องนี้ได้อย่างเต็มที่